โรคซึมเศร้า กับคนที่ไม่เข้าใจ

        เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โลกอินเตอร์เน็ตมีการพูดถึงโรคซึมเศร้า หลังจากข่าวเศร้ากับการจากไปของ "เชสเตอร์ เบนนิงตัน" นักร้องนำวงลิงคินพาร์ก มันก็แทบเหมือนเดิมทุกครั้งเวลามีข่าวคนดังเป็นโรคซึมเศร้าและเลือกจบชีวิตตนเอง พวกอันธพาลไซเบอร์ จะออกมาแสดงความเห็นแย่ๆ ต่อคนเป็นโลกโรคซึมเศร้า เช่น ไล่ให้ไปตาย พวกเขาทำเป็นรู้ดี ทั้งที่จริงไม่รู้อะไรเลย เพจเฟสบุ๊คดังก็พยายามให้ความรู้เหมือนทุกครั้ง แต่ก็เท่านั้นแหละ ก็อยากรู้ว่าพวกเขาเคยเจอคนเป็นโรคซึมเศร้าทำเรื่องแย่ๆใส่พวกเขาหรือไร ถึงได้ แค้น จนไล่ให้ไปตายแบบนั้น หรือเป็นแค่ความสะใจอันไร้เหตุผล
        แต่มันก็มีคนบางประเภทที่ไม่ได้เป็น แต่แกล้งเป็นอยู่ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ให้คนสนใจ ให้คนอื่นยอมให้ พวกนั้นก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนที่ไม่รู้จริงเกลียดคนเป็นโรคซึมเศร้า จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเป็น และได้คุยกับคนอื่นที่เป็นหลายคน ก็ไม่พบว่าคนที่เป็นจริงๆเรียกร้องความสนใจเลย อย่างมากก็แค่หาคนรับฟัง อันที่จริงแล้วจะอยากอยู่คนเดียว และจมไปกับอารมณ์ตัวเองมากกว่าด้วยซ้ำ ในจุดนี้หลายๆคนน่าจะมองการปลีกตัวนั้นเป็นการเรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยหลายคนไม่กล้าไปพบแพทย์ เพราะทัศนคติของสังคมนั่นแหละ ที่มองว่าการไปพบจิตแพทย์เป็นคนบ้า คนโรคจิต ต้องกล่อมกันอยู่นาน เล่าประสบการณ์ส่วนตัวเป็นตัวอย่าง ถึงได้รับฟังและยอมไป ส่วนตัวตอนที่เป็นนั้นกล้าไปพบแพทย์ด้วยตนเอง เพราะรู้สึกว่ารบกวนชีวิต จนไม่เป็นอันทำอะไร แพทย์ที่ไปพบเป็นแพทย์ทั่วไป หลังจากรับยา ก็หายใน 7 เดือน แต่มันก็เหมือนจะไม่หายขาดไปจนหมด นานๆที มันยังมีอาการดาวน์อยู่บ้าง คนที่เป็นโรคซึมเศร้าที่เคยคุยด้วย ก็ยอมไปพบแพทย์และรับยา ปัจจุบันก็ดีขึ้นกันทุกคน แทบจะหายดีกันหมด
        แล้วคนเป็นโรคซึมเศร้า ต้องการอะไร? ทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ก็อย่างที่หาอ่านได้ทั่วไป ว่าเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ เอาแค่นี้พอ ก็คิดเอาเองว่าจะให้ควบคุมตัวเองได้อย่างไร ดังนั้นพฤติกรรมที่ผิดปกติ การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง ก็เกิดขึ้นได้ ถึงจะอยากมีความสุขแต่มันก็ไม่มี สิ่งที่ท่านพอจะทำเพื่อคนเป็นโรคซึมเศร้าได้ คือการ"รับฟัง"โดยไม่ต้องให้คำแนะนำอะไร พยายามเข้าใจ และมีอารมณ์ร่วมไปกับเขา จับสัญญาณให้ได้ว่านี่คือซึมเศร้าจริงๆ คร่าวๆก็จะมี เบื่อทุกอย่าง แม้ในกิจกรรมที่สนใจมากที่สุด ก็ไม่บันเทิงอีกต่อไป มองตนเองว่าไร้ค่าเป็นภาระ กลางคืนนอนไม่หลับ พอหลับลงเมื่อตื่นก็ไม่อยากลุกไปจากที่นอน กินไม่ได้ หรืออาจกินมากเกินไป ซึ่งก็จะจับสัญญาณได้ยาก เพราะมีพวกแกล้งเป็น กับโรคอื่นที่มีอาการบางอย่างคล้ายกันเช่น ไบโพลาร์ แนะนำให้หาแบบทดสอบคัดกรองให้คนนั้นลองทำดู เมื่อแยกได้แล้วว่าเป็นแน่นอนแล้วก็พยายามพูดกล่อมให้ไปพบแพทย์ให้ได้ เสนอตัวไปเป็นเพื่อนเลย ไปจนถึงหน้าห้องตรวจ แล้วหลังจากนั้น หลายคนที่เพิ่งที่ได้รับยา ช่วงสัปดาห์แรก ถึงเดือนแรก อาการจะดูแย่ลง ก็คอยรับฟังเช่นเดิม ก่อนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ซักเดือนที่สองบางคนก็เดือนที่สามอาการแทบจะเป็นปกติด้วยฤทิธิ์ยา เราก็คอยดูอย่าให้เขาหยุดเอง แพทย์จะคอยลดยาให้ จนหยุดยาในที่สุด
        ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ไม่ได้ต้องไปดูแลตลอดเวลา แบบที่พวกอันธพาลไซเบอร์คิด แค่รับฟังเวลาที่เขาต้องการ และช่วยให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง แค่นี้ก็เพียงพอ




ความคิดเห็น